ยกฟ้องหมอนิ่ม เป็นข่าวประเด็นร้อนล่าสุดดังกระหึ่มไปทั่วโซเชียลเกี่ยวกับคดีฆาตกรรมอดีตสามีอย่าง นายเอ็กซ์ จักรกฤษณ์ อดีตนักกีฬายิงปืนทีมชาติจนตายคาที่ภายในรถหรู โดยมีผู้จ้างวานคือ นางสาวสุรางค์ แม่ของหมอนิ่ม จำเลยที่ 2 พญ. นิธิวดี จำเลยที่ 3 ว่าจ้างทนายอี๊ด หรือนายสมจิตร ติดต่อมือปืน นายจิรศักดิ์ จำเลยที่ 1 และ นายธวัชชัย จำเลยที่ 4 คนนำทาง มาดักยิงนายเอ็กซ์ จักรกฤษณ์ จนถึงแก่ความตายหน้าวัดบางเพ็งใต้ ถนนสุขาภิบาล 3 เมื่อหลายปีก่อน

ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ติดตามเบาะแสและพบว่ามีการติดต่อสื่อสารระหว่างกันไม่ไกลจากบริเวณจุดเกิดเหตุจริง เมื่อหลักฐานมีมากพอ ถึงดำเนินการจับกุมและเริ่มต้นกระบวนการไต่สวนโดยศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ประหารชีวิต นางสาวสุรางค์ ผู้เป็นแม่ ทว่ามายกฟ้องในภายหลังให้ลดโทษเหลือเพียง 25 ปี ในศาลชั้นอุทธรณ์ โดยที่หมอนิ่ม ศาลอุทธรณ์ได้สั่งยกฟ้อง ทำให้สังคมชาวโซเชียลต่างพากันวิจารณ์ว่าสมควรและยุติธรรมต่อครอบครัวผู้เสียชีวิตหรือเปล่า ?
วิเคราะห์ความกราดเกรี้ยวของคนในเฟสบุ้คที่มีคดีนี้ว่าสมเหตุผลมั้ย

การที่ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยกฟ้องแพทย์หญิงนิธิวดี หรือหมอนิ่ม มีทั้งผู้ที่เห็นด้วย และไม่เห็นด้วย บางกระแสมองว่า ไม่เป็นธรรมกับครอบครัวผู้เสียชีวิต ถ้าอยู่ด้วยกันไม่ได้ก็หย่าเสียสิ้นเรื่อง
ในขณะเดียวกัน ชาวโซเชียลหลายคนที่ติดตามข่าวมาตลอด กลับเลือกที่จะไม่ประณามหมอนิ่ม กลับเห็นใจทุกฝ่ายด้วยซ้ำโดยเฉพาะลูก ๆ ของหมอนิ่มที่ต้องเติบโตมาในสภาพพ่อแม่มีปัญหาขั้นทำร้ายกันจนถึงแก่ความตาย
ในมุมมองไรเตอร์ที่ติดตามข่าวของหมอนิ่มมาตลอด เรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นเลยถ้าสามารถยุติความรุนแรงในครอบครัวได้โดยเฉพาะตัวนายเอ็กซ์ จักรกฤษณ์ ต้นเหตุแห่งปัญหาที่มักใช้ความรุนแรงกับหมอนิ่ม นับตั้งแต่การทุบตีไปจนถึงขั้นไล่ยิงหมอนิ่มต่อหน้าลูก ๆ ในบ้าน แล้วหัวอกความเป็นแม่อย่างนางสุรางค์ จะทนไหวหรือ ?
ลูกเจ็บ แม่เจ็บกว่า การที่นางสุรางค์เห็นลูกสาวเพียงคนเดียวโดนทำร้ายบ่อย ๆ พอนานไปย่อมสะสมเป็นความเครียด ความรักและห่วงใยในตัวลูก กลัวว่าลูกอาจจะตายคามือนายเอ็กซ์ที่ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้ ย่อมทำให้นางสุรางค์กลัว เครียด จนกระทั่งต้องคิดกำจัดลูกเขยทิ้งก่อนที่ลูกสาวกับหลาน ๆ จะเป็นอะไรมากไปกว่านี้ถึงเกิดการจ้างวานฆาตรกรรมนายเอ็กซ์ขึ้น
เชื่อได้เลยว่า เรื่องราวระหองระแหงรวมถึงความรุนแรงภายในบ้าน เราชาวโซเชียลน่าจะตามอ่านจากสื่ออยู่บ่อย ๆ ดังนั้น แรงกระเพื่อมที่ว่าจะกราดเกรี้ยวหรือไม่นั้น ไรเตอร์มองว่า แบ่งเป็นสองกลุ่ม คือกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยก็จะเน้นด่าซึ่งมีทั้งเอาสนุกและเห็นใจจริง กับอีกกลุ่มที่ติดตามข่าวมาตลอดก็จะเห็นใจทุกฝ่ายค่ะ
ยกฟ้องหมอนิ่ม การตัดสินของศาลจะมีผลต่อสังคมยังไงบ้าง ?

การตัดสินของศาลชั้นอุทธรณ์ในกรณียกฟ้อง พญ.นิธิวดี ทางศาลมองว่าหมอนิ่มยังมีความรักความอาลัยต่อนายเอ็กซ์ จักรกฤษณ์ อดีตสามีผู้เสียชีวิตย่อมไม่น่าวางแผนคิดทำร้ายอดีตสามี เลยเป็นเหตุผลที่ว่า ควรยกฟ้อง
ในขณะที่นางสาวสุรางค์ ผู้เป็นแม่ ศาลลดโทษจำคุกเหลือเพียง 25 ปี ถามว่ามีผลต่อสังคมไหม ? ตรงนี้อยู่ที่มุมมองแล้วค่ะ เพราะบางครั้งเนื้อหาในกฎหมาย แม้ทั้งหมอนิ่มและแม่เข้าข่ายผู้ต้องหาก็จริง
แต่ถ้าหาเหตุของมูลเหตุจูงใจพิจารณาแล้วได้สมเหตุสมผล โอกาสที่ผู้ต้องหาจะรอดหรือรอการลดโทษย่อมมีความเป็นไปได้ แล้วสังคมจะได้อะไรจากคดีนี้ ?
อันดับแรก ก็คงเป็นเรื่องของกฎหมาย ว่าควรปรับเปลี่ยนแก้ไขไหม ? เพราะถึงอย่างไรก็เข้าข่ายผู้กระทำผิด ซึ่งไม่ยุติธรรมต่อครอบครัวของอีกฝ่ายที่เป็นผู้สูญเสียเหมือนกัน รวมถึงตัวของมือปืน แม้จะใช้ปืนยิงนายเอ็กซ์จนถึงแก่ความตาย แต่ถ้าไม่มีการจ้างวาน จะไม่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น
ในส่วนของศีลธรรม ถามว่าหมอนิ่มเป็นคนดีไหม ? เรื่องนี้ให้แง่คิดในเรื่องของผลกระทบจากการใช้ความรุนแรงจนตัวหมอนิ่มและแม่ยายทนไม่ไหว ความสูญเสียถึงเกิดขึ้น คนดีต่อให้แสนดีมากแค่ไหน ถ้าเจ็บทั้งกายและใจ ความแค้น ความเครียดย่อมเกิดขึ้นนำพามาสู่ความสูญเสีย กรณีหมอนิ่มน่าเห็นใจ ฟ้องหย่าสามีก็ไม่ยอม เรื่องเลยลงเอยแบบนี้
ดังนั้น จงใช้สติ และดูไว้เป็นบทเรียน ผู้ชายคนไหนที่ชอบใช้ความรุนแรงกับลูกและภรรยา จุดจบก็คงไม่ต่างจากอดีตนักกีฬาทีมชาติคนนี้เท่าไหร่ จงรักและถนอมน้ำใจกันให้มาก ๆ ทุกคนมีพ่อแม่และญาติพี่น้องค่ะ
ยกฟ้องหมอนิ่ม ไ่ม่ว่าผลจะลงเอยอย่างไร ? ทว่า ผู้ได้รับผลกระทบคือลูก ๆ ที่ต้องเติบโตมาพร้อมคำพูดจากคนในสังคมที่ว่า แม่ฆ่าพ่อ ลองนึกภาพดู โตขึ้นมา ลูก ๆ ของหมอนิ่มจะเป็นผู้ใหญ่แบบไหน ? ดังนั้น ยุติการใช้ความรุนแรงในครอบครัวกันเถอะค่ะก่อนทุกอย่างจะสายไป
เครดิตภาพ
บทความที่อาจสนใจ adele บทบาทคามเป็นแม่ ทุ่มเท มีอารมณ์ขัน น่ารักจังเลย